ซื้อบ้านภูเก็ต 2565 แนวทางเตรียมตัวก่อนซื้อบ้าน
ถ้าคุณกำลังวางแผนจะ ซื้อบ้านภูเก็ต 2565 ปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่อยู่อาศัยเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ต้องการมี เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 และหลักประกัน ความมั่นคงในชีวิต แต่การซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ก็เป็นการลงทุนระยะยาว ต้องใช้เงินจำนวนมาก
เชื่อว่าไม่ใช่สิ่งที่ซื้อกันบ่อย ๆ มือใหม่หลายคน วิลล่าภูเก็ตที่ขาย จึงอาจจะยังไม่รู้ว่าการซื้อ บ้าน ไม่ใช่แค่จ่ายเงินต้นตามราคาบ้าน กับดอกเบี้ยจากธนาคารแล้วจบกันไปเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมาสำหรับการซื้อบ้านสักหลังด้วย ขอเรียงลำดับไปทีละขั้น เพื่อให้เห็นภาพและเตรียมตัว ได้ทันก่อนตัดสินใจเดินเข้าโครงการ
1. การรู้ความสามารถการกู้ของตนเอง
สำหรับสูตรการคำนวณราคา บ้าน ที่จะกู้ซื้อได้นั้น สามารถคำนวณคร่าว ๆ โดยใช้สูตร (รายได้ต่อเดือน) X (60 เท่าของรายได้) = (ราคาบ้านที่กู้ซื้อได้) บ้านหรูในภูเก็ต
ดังเช่น รายได้ 30,000 บาทต่อเดือน X 60 = 1.8 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นขั้นต่ำของวงเงินที่จะกู้ได้ บางธนาคารอาจจะขยับจำนวนเท่าของรายได้ขึ้นลง ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์พิจารณา ตามขั้นตอนกู้ซื้อบ้าน
ทั้งนี้ SALE VILLA วงเงินดังกล่าว ถือเป็นวงเงินที่ให้ในกรณี ที่คุณไม่มีภาระหนี้ใด ๆ เลย ดังนั้นต้องมาดู “ภาระหนี้ต่อรายได้” ของเราด้วย หรือศัพท์ธนาคารจะเรียกว่าค่า DSR (Debt Service Ratio) ซึ่งส่วนใหญ่จะอนุญาต ให้ผู้กู้ซื้อบ้านมีภาระหนี้ได้ 30-40% ของรายได้ สูตรจึงเป็น
(รายได้ต่อเดือน) X (30% หรือ 40%) = (ความสามารถผ่อนชำระ) เช่น รายได้ 30,000 บาทต่อเดือน X 30% หรือ 40% = 9,000-12,000 บาท |
ซึ่งภาระหนี้ที่ว่า หมายถึงภาระหนี้ทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนรถ โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ดังนั้นสมมติว่ามีภาระหนี้ผ่อนรถอยู่เดือนละ 8,000 บาท ความสามารถผ่อนชำระ ที่เหลือว่างอยู่จึงเหลือเพียง 1,000-4,000 บาทเท่านั้น ซึ่งจะคำนวณกลับว่าสามารถกู้ซื้อบ้าน ได้เท่าไหร่โดยใช้สูตรนี้
(1,000,000 ÷ 7,000) x (ความสามารถผ่อนชำระ) = (วงเงินที่สามารถกู้ได้) เช่น (1,000,000 ÷ 7,000) x 4,000 = กู้บ้านได้ในราคา 571,429 บาท |
ในเมื่อทราบความสามารถ Villas in Pasak การผ่อนและราคาบ้านที่กู้ได้ของตนเองแล้ว ก็เลือกหาที่อยู่อาศัยที่ตรงใจ และเหมาะสมกับความสามารถของเราต่อไป
2. การเก็บออมเงินดาวน์
ซึ่งในระหว่างที่เลือกหาอยู่นั้น อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในขั้นตอนการซื้อบ้านคือ เราควรที่จะเก็บออมเงินเป็นค่าดาวน์บ้านหรือคอนโดมิเนียมไว้ด้วย เพราะธนาคารมีกฎคือปล่อยสินเชื่อกู้บ้านได้สูงสุด 90% ของราคาบ้าน เช่น ราคาบ้าน 1 ล้านบาท ธนาคารจะให้กู้มากที่สุด 9 แสนบาท อีก 1 แสนบาทจึงเป็นเงินสด ที่เราจะต้องจ่ายโดยตรงให้กับผู้พัฒนาโครงการเอง
โครงการจัดสรรต่าง ๆ จะมีโปรแกรมให้เราผ่อนดาวน์เป็นรายเดือน กับโครงการในระหว่างที่โครงการยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง (ธนาคารจะปล่อยกู้เมื่อที่อยู่อาศัยนั้นสร้างเสร็จแล้ว) โดยทั่วไปจะเก็บเงินดาวน์ที่ 10-20% ของราคา
ดั้งอย่างเช่น ราคาบ้านเดี่ยว 5 ล้านบาท เรียกเก็บเงินดาวน์ 10% = 5 แสนบาท โดยให้ผ่อนดาวน์ 10 เดือน = ชำระค่าดาวน์บ้านเฉลี่ยเดือนละ 50,000 บาท
ซึ่งด้วยการชำระค่าดาวน์บ้านต่อเดือนที่ค่อนข้างสูง ทำให้เราต้องเตรียมตัวเก็บออมเงินไว้ก่อนส่วนหนึ่งเพื่อนำมาใช้เป็นค่าดาวน์บ้านนั่นเอง
3. การเดินบัญชีธนาคารให้สวย
ซึ่งในส่วนต่อมาของขั้นตอนการซื้อบ้าน คือเรื่องของเอกสารเมื่อจะยื่นกู้บ้าน ธนาคารจะขอดูบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งทำให้ในช่วง 6 เดือนนี้ควรจะมีเงินคงไว้ในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรถอนออกหมด และถ้าหากมีรายได้เสริมประจำเดือน หรือทำอาชีพฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้า ที่ได้รับเงินเป็นรายครั้ง/รายวัน ก็ควรจะโอนเข้าในบัญชีอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน
4. การชำระหนี้ให้ตรงเวลา
สำหรับอีกข้อที่ธนาคารจะตรวจสอบคือ “เครดิตบูโร” ซึ่งจะมีประวัติการชำระหนี้ของผู้กู้ย้อนหลัง 3 ปี ใน 3 ปีนี้ถ้าหากมีการชำระหนี้ไม่ตรงเวลา หรือที่มักเรียกกันติดปากว่าติด “แบล็คลิสต์” ซึ่งเป็นคำนิยามของ “ผู้ที่มีประวัติในการผ่อนชำระหนี้ที่ไม่ดีหรือผ่อนชำระหนี้ไม่ได้ตามข้อตกลง”
ซึ่งถือว่าเป็นผู้กู้ที่มีความเสี่ยงจะเป็นหนี้เสีย ดังนั้น หากมีการกู้ซื้อสินค้าใด ๆ หรือการชำระค่าบัตรเครดิต ก็ควรต้องจ่ายให้ตรงเวลาทุกครั้ง เพราะการติดแบล็คลิสต์อาจทำให้ธนาคารปฏิเสธการให้กู้ซื้อบ้านไปโดยสิ้นเชิงได้
สำหรับใครที่กำลังคิดผู้กู้ซื้อบ้าน สามารถตรวจสอบเครดิตบูโรงของตนเองได้ โดยบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด มีบริการตรวจเครดิตบูโรหลากหลายช่องทาง สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่
5. ปิดบัญชีหนี้ให้หมดก่อนยื่นกู้ซื้อบ้าน
ซึ่งเป็นประเด็นสืบเนื่องจากข้อ 1 เมื่อมีภาระหนี้เดิมอยู่ก็จะทำให้เรามีวงเงินกู้ซื้อบ้านต่ำลง ดังนั้นภาระหนี้ใดที่สามารถโปะเงินปิดบัญชีให้เรียบร้อยได้ควรทำทันทีก่อนจะยื่นกู้ซื้อบ้าน แม้ว่าจะเหลือระยะเวลาไม่มาก เช่น ผ่อนค่าโทรศัพท์มือถือ แม้ว่าจะเหลืออีกเพียง 3 เดือนจะผ่อนหมด แต่ ณ ช่วงเวลาที่ยื่นกู้ซื้อบ้าน ธนาคารจะถือว่าเรามีภาระหนี้ส่วนนี้อยู่
6. บัตรเครดิตที่ไม่จำเป็นจงยกเลิก
ซึ่งหลายคนที่ถือบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบ วิลล่าภูเก็ตป่าสัก เพราะข้อเสนอที่ยั่วยวนใจเมื่อธนาคารมาชวนสมัครบัตรเครดิต แม้ที่จริงแล้วจะไม่ค่อยได้ใช้งานก็ตามแต่ธนาคารจะมองว่าผู้กู้มีโอกาสสร้างหนี้สูงขึ้นในภายหลังจากบัตรเครดิต ซึ่งจะทำให้โอกาสการอนุมัติสินเชื่อบ้านต่ำลง ดังนั้น ก่อนยื่นกู้บ้านควรจะขอยกเลิกบัตรเครดิตให้เหลือเพียง 1-2 ใบเท่านั้น
7. การเตรียมเอกสาร สลิปเงินเดือน ใบรับรองการทำงาน หลักฐานรายได้พิเศษ
ในขั้นตอนการซื้อบ้านขั้นตอนสุดท้าย เป็นการเตรียมเอกสาร เมื่อจะยื่นกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร ซึ่งส่วนที่อาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ หลักฐานการทำงานและรายได้ต่าง ๆ เช่น สลิปเงินเดือน ใบรับรองการทำงาน ที่เราอาจจะต้องเดินเรื่องขออนุมัติจากหน่วยงานต้นสังกัด และบางหน่วยงาน อาจจะใช้เวลานานกว่าจะได้รับอนุมัติ การเตรียมตัวก่อนจึงสำคัญ ที่จะทำให้การยื่นกู้ซื้อบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น
รู้ก่อน! ยื่นกู้ซื้อบ้าน-คอนโด
สิ่งที่ต้องเตรียม | รายละเอียด |
ภาระหนี้ | ไม่เกิน 30-40% ของรายได้ |
เงินออม | อย่างน้อย 10% ของราคาบ้าน |
การเคลื่อนไหวบัญชี | ย้อนหลัง 6 เดือน |
ประวัติการชำระหนี้ | ย้อนหลัง 2 ปี |
ถ้าหากเตรียมตัวทางด้านการเงินและเอกสารครบ 7 ขั้นตอนการซื้อบ้าน แค่นี้คุณก็พร้อมที่จะกู้ซื้อบ้านหลังงามได้แล้ว
อ่านบทความเพิ่มเติ่ม : ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต invest in phuket property phuket villa for sale phuket village village phuket รีวิวบ้าน ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต ซื้อบ้าน ตกแต่งบ้าน วิลล่าราคาถูกภูเก็ต วิลล่าภูเก็ตที่ขาย
ซื้อวิลล่า ภูเก็ต Sale Villas Phuket (RU) ภูเก็ตวิลล่า คอร์ปอเรชั่น