ยื่นภาษีบ้าน ขายบ้านจำต้องเสียภาษีอากรอะไรบ้าง
ยื่นภาษีบ้าน phuket property ขายบ้านต้องเสียภาษีอากรอะไรบ้าง ค่าธรรมเนียมและก็ภาษี นับว่าเป็นหนึ่งรายจ่ายหลักที่เกี่ยวพันกับการซื้อขายบ้าน คอนโด ที่ดินและก็อสังหาริมทรัพย์จำพวกอื่นๆแม้กระนั้นคนซื้อหลายคนมักละเลยจุดสำคัญในส่วนนี้ไป จนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบจากการเสียค่าใช้จ่ายมากจนเกินความจำเป็น กระทั่งทำให้การค้าขายอสังหาฯ บ้าน คอนโด ขาดทุนได้ข้างหลังเสียค่าบริการแล้วก็ภาษีไปแล้ว ต้นไม้แต่งรั้วบ้าน ทนทาน
ความสำคัญ
ราคาประเมินและราคาซื้อขาย คือ ราคาที่จะนำไปคำนวณค่าธรรมเนียมและก็ภาษีซื้อขายบ้าน คอนโด ที่ดิน ที่ผู้ขายแล้วก็คนซื้อจะต้องจ่าย รีวิวบ้านภูเก็ต
นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมรวมทั้งภาษีซื้อขาย บ้าน คอนโด ที่ดินคนขายจำต้องเสีย ภาษีรายได้หักในที่จ่าย โดยคิดจากราคาประเมินและก็ปีที่ถือสิทธิ์
วันนี้ DDproperty เชิญชวนคุณมาทำความเข้าใจว่าขายบ้านจำต้องเสียภาษีอากรอะไรบ้าง และเรื่องค่าธรรมเนียมแล้วก็ภาษีสำหรับเพื่อการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเกิดเรื่อง
วันนี้ DDproperty เชื้อเชิญคุณมาทำความเข้าใจว่าขายบ้านจะต้องเสียภาษีอากรอะไรบ้าง แล้วก็เรื่องค่าธรรมเนียมรวมทั้งภาษีสำหรับเพื่อการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเกิดเรื่อง บ้าน
ราคาประเมินหมายถึง?
ราคาที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นราคากึ่งกลางของอสังหาริมทรัพย์ทั่วทั้งประเทศ เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์สำหรับเพื่อการคิดค่าธรรมเนียมแล้วก็ภาษีจาการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์PHUKET VILLA โดยจะมีการปรับราคาประเมินใหม่ทั่วราชอาณาจักรทุกๆ4 ปี ซึ่งราคาประเมินบางทีก็อาจจะสูงหรือต่ำยิ่งกว่าราคาซื้อขายแลกเปลี่ยนจริงก็ได้ แม้กระนั้นโดยส่วนมากแล้วราคาประเมินจะต่ำยิ่งกว่า
ราคาตลาดหมายถึง?
ราคาที่ใช้สำหรับในการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันจริง ซึ่งจะสอดคล้องกับอุปสงค์รวมทั้งอุปทานของตลาดในแต่ละช่วง มีการปรับพฤติกรรมตามสภาวะค่ายังชีพอยู่เสมอเวลา ราคาท้องตลาดก็เลยมักสูงขึ้นยิ่งกว่าราคาประเมิน
ค่าใช้จ่ายเมื่อมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์
ขายบ้านจะต้องเสียภาษีอากรอะไรบ้าง ค่าครองชีพสำหรับในการขายอสังหาริมทรัพย์ส่วนที่คนขายจำต้องจ่าย ประกอบไปด้วย 4 รายการ ดังเช่นว่า ค่าธรรมเนียม ค่าอากร ภาษีรายได้ และก็ภาษีธุรกิจเฉพาะ มาทำความรู้จักกันไปครั้งละส่วนกัน
1. ค่าธรรมเนียม 2%
สำหรับในการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องเสียค่าบริการเมื่อใดก็ตามลงทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอัตรา 2% จากราคาประเมิน ซึ่งไม่มีข้อละเว้นหรือการผ่อนผันอะไรก็แล้วแต่แล้วก็เพื่อความชอบธรรมระหว่างผู้บริโภคและก็คนขายมักนิยมแบ่งค่าธรรมเนียมส่วนนี้ให้แต่ละฝ่ายตั้งรับไม่ถูกถูกใจคนละครึ่งเป็น บ้านจัดสรรภูเก็ต คนซื้อค่าธรรมเนียมจ่าย 1% และก็คนขายจ่ายค่าธรรมเนียม 1% เท่าๆกันโดยให้เจาะจงในคำสัญญาจะซื้อจะขาย
2. ค่าอากร 0.5%
ค่าอากรแสตมป์ที่คนขายจำต้องเสียในแนวทางการลงบัญชีโอนกรรมสิทธิ์ ไตร่ตรองจากราคาประเมินและก็ราคาตามท้องตลาดด้วยกันโดยเลือกใช้ราคาที่สูงกว่ามาคำนวณในอัตรา 0.5% RENT AND BUY VILLA PHUKET
พอๆกับว่าคนขายจะเสียค่าอากรแสตมป์ 1 บาท ทุกๆ200 บาท โดยคนขายจะเป็นข้างจ่ายฝ่ายเดียว และก็จะได้รับเว้นเสียแต่ค่าอากรต่อเมื่อจะต้องเสียภาษีอากรธุรกิจเฉพาะ แนวทาง ยื่นภาษีออนไลน์
3. ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3%
คนขายที่ครองอสังหาริมทรัพย์เป็นระยะเวลาน้อยกว่า 5 ปี ต้องเสียภาษีอากรธุรกิจเฉพาะ ในอัตราร้อยละ 3.3 จากราคาประเมินหรือราคาท้องตลาดขึ้นกับว่าราคาใดสูงยิ่งกว่า
อย่างไรก็แล้วแต่มีการละเว้นเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะในเรื่องที่คนขายถือครองอสังหาฯ นานเกิน 5 ปี หรือมีชื่ออยู่ในใบสำมะโนครัวเป็นเวลายาวนานกว่า 1 ปี ถูกเวนคืนบ้านหรือที่ดิน หรือเป็นอสังหาฯ ที่ได้รับโดยมรดก
4. ภาษีรายได้หัก ณ ที่จ่าย
เมื่อมีการขายอสังหาริมทรัพย์จะนับเป็นรายได้แก่คนขาย ขายวิลล่าภูเก็ต ก็เลยจำเป็นต้องเอามาคำนวณเป็นรายได้พึงจะประเมินที่จะจะต้องคำนวณภาษีรายได้บุคคลปกติหักในที่จ่าย โดยเหตุนั้นค่าใช้สอยในส่วนนี้คนขายก็เลยควรจะเป็นฝ่ายตั้งรับไม่ถูกถูกใจเองทั้งสิ้น ภาษีรายได้จะใคร่ครวญจากราคาประเมินแล้วก็ปริมาณปีที่ถือสิทธิ์
ปริมาณปีที่ครอบครองนั้นจะนับตามปีบัญชี โครงการบ้านภูเก็ต โดยหนึ่งปีจะเริ่มนับจากวันที่ 1 ม.ค.ไปจนกระทั่ง 31 ธ.ค.ของปีเดียวกัน การซื้อขายข้างในปีเดียวกันนับเป็นการครอง 1 ปี ถ้าครองตั้งแต่ธ.ค.ปีนี้ถึงเดือนมีนาคมปีต่อไปก็ให้นับเป็นครอบครอง 2 ปี
สามารถคำนวณรายได้โดยนำราคาประเมินคูณกับจำนวนร้อยละของรายได้ที่เอามาคำนวณภาษีตามปริมาณปีที่ถือสิทธิ์ตามอัตราที่แสดงในตารางจะได้จำนวนเงินที่จะต้องนำไปคำนวณภาษีรายได้ทั้งหมดทั้งปวง หลังจากนั้นเอามาหารด้วยปริมาณปีที่ครอบครองจะได้จำนวนเงินถึงที่กะไว้จำเป็นต้องนำไปคำนวณภาษีรายได้ที่จำเป็นต้องจ่ายต่อปี
ระยะเวลาถือครอง | เงินได้นำมาควรณภาษีอากร |
1 ปี | 8 |
2 ปี | 16 |
3 ปี | 23 |
4 ปี | 29 |
5 ปี | 35 |
6 ปี | 40 |
7 ปี | 45 |
มากกว่า 8 ปี | 50 |
ยกตัวอย่าง ขายบ้านที่ถือครองมาตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน 2556 ถึงเดือนมกราคม 2559 โดยมีราคาประเมิน 4 ล้านบาท กรณีนี้ระยะเวลาครอบครองเท่ากับ 4 ปี ขายบ้านภูเก็ต
- เงินได้ทั้งหมดที่ต้องนำมาคำนวณภาษี = ราคาประเมิน (บาท) x ร้อยละของเงินได้ที่นำมาคำนวณภาษี ณ การถือครอง 4 ปี (%)
- เงินได้ทั้งหมดที่ต้องนำมาคำนวณภาษี = 4,000,000 x 29%
- เงินได้ทั้งหมดที่ต้องนำมาคำนวณภาษี = 1,160,000 บาท
- จำนวนเงินได้ที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้ที่ต้องชำระต่อปี = เงินได้ทั้งหมดที่ต้องนำมาคำนวณภาษี (บาท) / จำนวนปีถือครอง (ปี)
- จำนวนเงินได้ที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้ที่ต้องชำระต่อปี = 1,160,000 / 4
- จำนวนเงินได้ที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้ที่ต้องชำระต่อปี = 290,000 บาท
- นำจำนวนเงินได้ที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้ที่ต้องชำระต่อปีมาคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายต่อปีตามอัตราภาษี ดังนี้
- งินได้ 150,001 – 300,000 เสียภาษีเงินได้ 5%
- จากจำนวนเงินได้ที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้ที่ต้องชำระต่อปี 290,000 บาท สามารถคำนวณภาษีเงินได้ดังนี้
- ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายต่อปี = 290,000 x 5%) = 14,500 บาท
- คำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายทั้งหมด = ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายต่อปี (บาท) x จำนวนปีถือครอง (ปี)
- คำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายทั้งหมด = 14,500 x 4
- คำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายทั้งหมด = 58,000 บาท
กรณีผู้ขายเป็นนิติบุคคลต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
กรณีที่ผู้ขายเป็นนิติบุคคลจะไม่ใช้การคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามวิธีการข้างต้น แต่ให้คิดภาษีในอัตราร้อยละ 1 ของราคาตลาดหรือราคาประเมินขึ้นอยู่กับราคาใดสูงกว่า และไม่นำจำนวนปีที่ถือครองเข้ามาพิจารณาคำนวณภาษีเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก DDproperty
อ่านบทความที่หน้าสนใจ : แบบบ้าน Villas Phuket รีวิวบ้าน phuket property บ้านเดี่ยว POOL VILLA บ้านจัดสรร PHUKET VILLA
อ่านบทความเพิ่มเติ่ม : ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต invest in phuket property phuket villa for sale phuket village village phuket รีวิวบ้าน ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต ซื้อบ้าน ตกแต่งบ้าน วิลล่าราคาถูกภูเก็ต วิลล่าภูเก็ตที่ขาย